หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

รู้จักกับ NMAP Script Engine กันเถอะ

Credit By: http://www.mindterra.com/


มารู้จักกับ NMAP Script Engine กันเถอะ

สวัสดีคับ หลังจากห่างหายการอัพเดทกันไปนาน แต่ตอนนี้ผมกลับมาแล้วคับ พี่น้อง!!!! กลับมาคราวนี้ผมก็มาพร้อมกับข้อมูลที่ดีๆ ที่มีประโยชน์กันอีกเช่นเคยนะคับ
วันนี้เรามาเรื่องเบาๆ กับ NMAP Script Engine กันคับ
ถ้ากล่าวถึง Nmap แล้ว ผู้ที่ชื่นชอบเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงของคอมพิวเตอร์คงจะรู้กันดีว่ามันมีประโยชน์ยังไง ในที่นี้ผมขอเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Nmap คล่าวๆ ว่ามันคืออะไร เอาไว้ใช้ทำอะไร ก่อนแล้วกันคับ
Nmap ย่อมาจาก Network Mapper สร้างขึ้นโดยคุณ Gordon Lyons (เขามีนามสมมติอีกชื่อนึงเป็นภาษารัสเซียว่า Fyodor Vaskovich) โดย Nmap เป็นเครื่องมือที่เอาไว้ตรวจสอบและค้นหา service ที่ทำงานอยู่บนเครื่องเป้าหมาย เมื่อใช้ Nmap ตรวจสอบและค้นหาแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่เราจะรู้คือ เครื่องเป้าหมายมันเปิดหรือมันปิดอยู่ ถ้ามันเปิดอยู่แล้วมันเป็นเครื่องที่ใช้ทำงานประเภทไหน เช่น เราจะทำการตรวจสอบเครื่องเป้าหมายเครื่องนึงโดยใช้ Nmap ว่าเครื่องเป้าหมายเครื่องนั้นมันเปิด service อะไรอยู่
clip_image002
(จากรูปข้างบนเราจะทำการตรวจสอบเครื่องเป้าหมายโดยมีเลขที่อยู่คือ 192.168.5.130)
 
-sT คือ การสแกนโดยใช้เทคนิค TCP full connect (3 way handshake)
-sV คือ การให้ service แสดงแบนเนอร์ (ตามรูปจะแสดงในคอลัมน์ VERSION)

เมื่อสแกนเสร็จแล้วเราจะได้ผลลัพธ์ออกมาว่าเครื่องเป้าหมายเปิดใช้งานประเภทเว็บ (พอร์ท 80 และ แบนเนอร์ Apache) และ ประเภทถ่ายโอนไฟล์ (พอร์ท 21 และแบนเนอร์ vsftpd)

เบื้องต้นเราก็จะรู้แล้วว่า Nmap มันใช้ทำอะไร ทีนี้เราจะมาเข้าเรื่องกัน!!!!!
NSE หรือ Nmap Script Engine เป็นความสามารถหนึ่งของ Nmap ที่อนุญาตให้เราสามารถเขียนปรับแต่งสคริปต์สแกนง่ายๆด้วยตัวเราเอง2 ซึ่งปกติแล้ว Nmap จะมีสคริปต์ที่ถูกเขียนไว้แล้วอยู่ที่พาธ <NMAP_HOME>/script
ในที่นี้เราจะมาลองหัดเขียน NSE ง่ายๆโดยภาษาที่ต้องใช้เขียนใน NSE คือ Lua (http://www.lua.org/start.html) ซึ่งเป็นภาษาที่จะใช้ในการฝังเข้ากับแอปพลิเคชันอื่นๆ
ส่วนประกอบหลักๆของ NSE จะมีอยู่สามส่วนได้แก่ HeadRule และ Action

The Head

ในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ใช้บอกข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับสคริปต์นี้โดยในส่วนนี้จะประกอบไปด้วยฟิลด์

The Rule

ส่วนนี้เป็นส่วนที่เกี่วข้องกับ Action เพราะจะเป็นส่วนที่คอยบอกว่าเราจะเข้าไปประมวลผลในส่วนของ Action หรือเปล่า ถ้าตรงกับเงื่อนไขก็ประมวลผล ถ้าไม่ตรงในส่วนของ Action ก็จะถูกละเลยไป

The Action

ส่วนสุดท้ายเป็นส่วนที่เราจะใช้หาข้อมูลที่เราต้องการทราบโดยในส่วนนี้จะทำการสร้างการเชื่อมต่อไปยังเครื่องเป้าหมายเพื่อเก็บเอาข้อมูลมาแสดงผล
เราจะมาลองเขียนสคริปต์ที่ใช้หาช่องโหว่ของ FTP โดยตรวจสอบเวอร์ชันจากแบนเนอร์
เริ่มแรกก็สร้างไฟล์นามสกุล .nse ขึ้นมาโดยเอาไฟล์ไปอยู่ที่พาธ <NMAP_HOME/script>
clip_image004
จากนั้นก็เริ่มเขียนในส่วนแรกก่อนก็คือ Head
clip_image006
- – หมายถึง คอมเมนต์
description อธิบายจุดประสงค์ของสคริปต์
categories หมวดหมู่ของสคริปต์ เช่น fuzzing, discovery
license ใบอนุญาต, ข้อตกลง
ในส่วนถัดไปคือ Rule ในที่นี้เราจะทำการตรวจสอบเฉพาะ FTP ซึ่งมีพอร์ท 21 เป็นค่าปริยาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต้องระบุใน Rule จะมี
โปรโตคอล คือ TCP (FTP ใช้ TCP เป็น Transport protocol(OSI model layer 4))
พอร์ท คือ 21
สถานะ คือ เปิดใช้งาน (Open)
โดยเงื่อนไขทั้ง 3 ข้างบนจะนำไปเขียนเป็นเงื่อนไขตามรูปข้างล่าง
clip_image008
- – หมายถึงคอมเม้นต์
portrule และ function คือ ฟังก์ชันที่จะเรียกโฮสต์หรือเลขที่อยู่และพอร์ทมาตรวจสอบ
return คือ ให้นำค่ามาตรวจสอบโดยให้ระบุเป็นเงื่อนไข จากตัวอย่างจะนำค่า protocol, port number, port state มาระบุเป็นเงื่อนไขที่เราระบุไว้ข้างบน
ส่วนสุดท้ายคือ Action โดยมีข้อแม้ว่าเงื่อนไขที่เราตั้งในส่วน Rule จะต้องตรงทุกข้อถึงจะเข้ามาประมวลผลในส่วนนี้ได้ เช่น ในกรณีที่เราตั้งว่าต้องเป็นพอร์ท 21 ส่วนของ Action จะประมวลผลก็ต่อเมื่อสแกนแล้วเจอเป็นพอร์ท 21 เท่านั้น ในส่วนนี้เราจะทำการอ่านแบนเนอร์จาก service ที่รันอยู่โดยเราจะตรวจสอบว่ามีช่องโหว่จากเวอร์ชัน
Nmap มีสคริปต์ไว้ตรวจสอบแบนเนอร์อยู่แล้วชื่อว่า banner.nse เราจะทำการคัดลอกเอาฟังก์ชัน grab_banner() , output(), replace_nonprint() และ extra_output() มาใส่ไว้ด้านล่างสุด
function grab_banner(host, port)
local opts = {}
.
.
return response:match(“^%s*(.-)%s*$”);
end
function output( out )
if type(out) ~= “string” or out == “” then return nil end
.
.
return table.concat(t,”\n”)
end
function replace_nonprint( s, len )
local t = {}
.
.
return table.concat(t)
end
function extra_output()
return (nmap.verbosity()-nmap.debugging()>0 and nmap.verbosity()-nmap.debugging()) or 0
end
ฟังก์ชันที่เราจะเอามาใช้ในสคริปต์ของเราซึ่งอยู่ใน banner.nse
จากนั้นเราจะทำการเรียกเฉพาะฟังก์ชัน grab_banner(), output() มาใช้ตามรูป
clip_image010
ในที่นี้เราจะลองจำลองการหาช่องโหว่จากแบนเนอร์แบบง่ายๆโดยสมมติว่าถ้า FTP เป็น CesarFTP เวอร์ชัน 0.99g ให้บอกว่ามีช่องโหว่และอ้างอิงถีงโค๊ดที่ใช้โจมตีช่องโหว่
local bnnr คือ ตัวแปรที่จะเก็บผลลัพธ์จากฟังก์ชัน grab_banner
local final_bnnr คือ ตัวแปรที่จะเก็บผลลัพธ์จากฟังก์ชัน output ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่จัดการรูปแบบของผลลัพธ์
if และ else คือ ถ้าตัวแปร final_bnnr มีอักขระ “CesarFTP 0.99g” อยู่ก็ให้บอกว่ามีช่องโหว่ ถ้าไม่มีก็บอกว่าไม่มีช่องโหว่
สุดท้ายบันทึกแล้วก็สแกนด้วยคำสั่ง nmap – -script ftp-vuln-check -p 21 <เป้าหมาย>
clip_image012
สำหรับวันนี้เอาแค่นี้ก่อน ให้เพื่อนๆ ได้รู้จัก NSE กันก่อน แล้วกลับมาพบกันอีกนะคับ คราวนี้จะไม่หายไปนานแล้วคับ ^^
http://en.wikipedia.org/wiki/Nmap
http://nmap.org/book/man-nse.html
http://www.lua.org/start.html
http://nmap.org/book/nse-tutorial.html
http://thesprawl.org/research/writing-nse-scripts-for-vulnerability-scanning/

HTML 5 Hacking – ClickJacking

Credit By: http://www.mindterra.com/


HTML 5 Hacking – ClickJacking

สวัสดีคับเพื่อนๆ วันนี้ผมจะมาแนะนำเพื่อนๆ ให้รู้จักกับเทคนิคนึงที่นิยมใช้กันในยุคที่เราจะก้าวเข้าสู่ HTML5 นั่นก็คือ Clickjacking คับ 
หลังจากที่ HTML (Hypertext Markup Language) ที่ได้กำเนิดมาเป็นระยะเวลากว่า 22 ปีเศษ (นับตั้งแต่ปี 1991) ด้วยความสามารถที่ง่ายต่อการใช้งานและพัฒนา ต่อมาในปี 1996 ได้มีการนำเอา Javascript มาใช้งานร่วมกับ HTML ทำให้เกิดช่องโหว่สุดฮิตอย่าง Cross-Site Script(XSS) ที่ยังลุกลามมาจนถึงปัจจุบัน กระทั่งเมื่อปี 2009 ได้มีการเปิดตัว HTML5 พร้อมกับความสามารถต่างๆที่จะทำให้การท่อง Internet ดูหวือหวาและหลากหลายขึ้น แต่ความสามารถที่หลากหลายขึ้นก็มากับภัยคุกคามที่หลากหลายขึ้นเช่นเดียวกัน
ในที่นี้ผมขอยกตัวอย่างการโจมตีที่มาพร้อมกับ HTML5 มาซัก 1 ตัว ผมขอเลือกการโจมตีที่เรียกว่า Clickjacking แล้วกัน
Clickjacking คือ เทคนิคที่ผู้ไม่หวังดีใช้ล่อลวงให้เหยื่อคลิกลิงค์โดยมีจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง
ส่วนใหญ่แล้วผู้ไม่หวังดีจะทำการสร้างข้อความที่น่าสนใจ เช่น “แจกไอโฟน 5 คลิกด้านล่าง” และด้านล่างก็จะมีปุ่มให้คลิกซึ่งปุ่มนั้นเป็นเพียงกราฟฟิกหลอกๆ โดยที่ปุ่มจริงๆนั้นถูกซ่อนเอาไว้อยู่ข้างหลังด้วยเทคนิคการโปร่งใส(transparent)
clip_image002
รูปตัวอย่างโฆษณาชวนเชื่อซึ่งมีความเสี่ยงต่อ clickjacking

clickjacking รูปแสดงการซ่อนปุ่มเอาไว้ด้านหลัง

ลองจำลองเหตุการณ์ขึ้นมาสักเหตุการณ์โดยเขียนหรือไปนำโค๊ดมาจากอินเตอร์เน็ต หลังจากนั้นลองเข้าไปหน้าที่มีเทคนิค clickjacking แฝงอยู่ตามรูปด้านล่าง
clip_image004
จากรูปด้านบนมีลิงค์ที่ชื่อว่า “CLICK HERE” ซึ่งมองจากรูปแล้วเราจะไม่เห็นว่ามีลิงค์อะไรซ่อนอยู่ด้านหลังเลยเพราะถูกซ่อนด้วยเทคนิดโปร่งใส
เราลองไปแก้โค๊ดโดยตั้ง opacity=0.5 เราจะเห็นว่าปุ่ม “target button” ซ่อนอยู่ด้านหลังตามรูปด้านล่าง
clip_image006
ซึ่งปุ่มที่แท้จริงที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยาโต้ตอบกับเราคือ “target button” ที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง ในที่นี้เราลองให้มันแจ้งเตือนขึ้นมาหากมีคนไปคลิกตามรูปด้านล่าง
clip_image008

สำหรับวันนี้ผมมาแนะนำคร่าวๆ ก่อน แล้วไว้ผมจะลงรายละเอียดอีกครั้งนะคับ วันนี้ไปก่อนนะคับ ^^
ที่มา
https://media.blackhat.com/bh-eu-12/shah/bh-eu-12-Shah_HTML5_Top_10-WP.pdf
http://javascript.info/tutorial/clickjacking
https://www.owasp.org/index.php/Testing_for_Clickjacking_%28OWASP-CS-004%29
http://www.kobashicomputing.com/prevent-clickjacking-of-your-websites

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ปรับแต่ง Windows 7 ให้เบาเครื่องวิ่งฉิวดังใจ (ตอนที่ 2 )

ปรับแต่ง Windows ๗ ให้เบาเครื่องวิ่งฉิวดังใจ (ตอนที่ ๒)



จากตอนที่แล้วในการทำให้ Windows ๗ วิ่งฉิวในการเพิ่มความเร็วในการเปิดและปิดเครื่อง มาต่อกันในทิปบทนี้ว่าด้วย "ทำอย่างไรให้ Windows ๗ มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
 ทำอย่างไรให้ Windows ๗ มีประสิทธิภาพมากขึ้น

      เมื่อตอนที่แล้วผมจะกล่าวถึงการเปิดปิดวินโดวส์ให้รวดเร็วขึ้น คุณๆ อ่านแล้วทำตามหรือยังครับ คราวนี้จะมาเน้นด้านประสิทธิภาพโดยรวมหรือที่เรียกว่า Performance ในการที่จะทำให้ Performance ของ Windows ๗ เพิ่มขึ้นนั้นมีอยู่หลายจุด ถ้าคุณๆ ทำครบทุกจุด ตามที่จะกล่าวต่อไปนี้ ผมรับรองเครื่องคุณจะเบาหวิว การทำงานจะรวดเร็ว เพราะคุณได้ปิดจุดที่ขัดขวางการทำงานของ Windows ๗ ให้เหลือน้อยที่สุด

ยกเลิก Services ที่ไม่จำเป็น

      ส่วนสำคัญของ Windows ๗ ที่ทำให้ Windows ๗ มีฟีเจอร์หลากหลาย ลูกเล่นมากมายก็คือบรรดา Services ต่างๆ ที่ Windows ๗ เปิดทำงานอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ Services ทุกตัวที่ผู้ใช้ได้ใช้ประโยชน์ มีอยู่หลาย Services ที่เปิดทำงาน แต่ไม่มีการใช้งานเลย ทำให้ Performance โดยรวมของ Windows ๗ ลดน้อยลง

      ๑. พิมพ์ services.msc ลงในช่อง Search ของ Start Menu แล้วกดคีย์ Enter
      ๒. ที่หน้าต่าง Services จะเห็นรายการ Services ทั้งหมดของ Windows ๗ ทางหน้าต่างด้านขวามือ ถ้าต้องการทราบรายละเอียดของ Services ตัวไหนก็ให้คลิกที่ Services ตัวนั้น จะมีรายละเอียดให้อ่านทางกลางของหน้าต่าง
      ๓. ให้ดับเบิลคลิกที่ Services ที่ต้องการยกเลิกหรือคลิกขวาที่ Services เลือกคำสั่ง Properties



      ๔. หน้าต่าง Properties ของ Services คลิกที่ Drop Down Menu หลังรายการ Startup Type: ให้เลือก Disabled



      ๕. คลิกปุ่ม Start ที่ใต้รายการ Service status: แล้วคลิกปุ่ม OK เท่านี้คุณก็ยกเลิก Servicesที่ไม่ต้องการได้แล้ว

Services ที่ยกเลิกได้

      Services ตามรายการข้างล่างนี้ เป็น Services ส่วนน้อยของ Windows ๗ ที่ทดสอบแล้วว่าสามารถยกเลิกได้ โดยจะทำให้ใช้ฟีเจอร์บางตัวไม่ได้ แต่จะทำให้การทำงานโดยรวมลื่นไหลมากขึ้น คุณลองพิจารณาดูว่าตัวไหนที่สมควรยกเลิก ก็เลือกเอาตามความเหมาะสมของเครื่องคุณ

      • Application Experience ทำหน้าที่ตรวจสอบและซ่อมแซ่มโปรแกรมที่มีปัญหาของ Windows ๗
      • Computer Browser เป็นตัวช่วยในการอัปเดทของ Browser
      • Error Reporting Service ทำหน้าที่ส่งข้อมูลหรือรายงานให้ไมโครซอฟท์ทราบเวลาเครื่อง Error
      • Desktop Window Manager Session Manager ดูแลจัดการ Themes,Background ของ Windows ๗
      • Diagnostic Policy Service วิเคราะห์และช่วยตรวจสอบปัญหาของ Services และ Components ต่างๆ ของ Windows.
      • IP Helper ทำให้เครื่องซัพพอร์ท IPv๖ ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายกับ ISP แต่ปัจจุบันมีน้อยมากที่ใช้
      • IPv๖IPsec Policy Agent เป็น Service ที่ IPS จะต้องการใช้เพื่อเพื่อความปลอดภัยในการติดต่อกันระหว่าง ISP กับเครื่องของลูกค้า
      • Offline Files ทำให้ใช้ Internet แบบ offline
      • Network List Service ทำหน้าที่เป็นตัวระบุการติดต่อ Network และดูแลคุณสมบัติของ Network เมื่อมีการแปลื่ยนแปลงของไฟล์หรือโปรแกรมใน Network ก็จะแจ้งให้ทราบ
      • Portable Device Enumerator Service ดูแลการถ่ายโอนข้อมูลไฟล์ Media ในอุปกรณ์ Removeable เช่น ไฟล์ Windows Media Player , รูปภาพ
      • Print Spooler เป็นตัวเก็บข้อมูลที่จะพิมพ์ไว้ก่อน ในกรณี Printer กำลังพิมพ์งานอื่นอยู่ เมื่อพิมพ์งานแรกเสร็จก็จะพิมพ์งานอื่นๆ ที่เก็บใน Print Spooler ต่อๆไป ทำให้คุณสามารถสั่งให้ Printer งานได้มาก
      • Distributed Link Tracking Client เป็น Service ที่ทำหน้าที่ ดูแลไฟล์ NTFS ที่อยู่ในเครื่องคุณกับเครื่องที่อยู่ในระบบเครือข่าย
      • Protected Storage ให้การป้องกันการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ เช่น รหัสผ่านเพื่อป้องกันการเข้าใช้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
      • Remote Access Connection Manager ทำหน้าที่ดูแลการต่อของ Dial-up และ VPN (Virtual Private Network)
      • Secondary Logon ช่วยให้สิทธิของยูสเซอร์คนอื่นๆ Log on เข้าระบบได้
      • Server เป็นตัวช่วยให้เครื่องแชร์ไฟล์และ Printer ในระบบ LAN
      • Shell Hardware Detection เป็นตัวช่วยให้วินโดวส์แสดงหน้าต่าง Auto Play ขึ้นมาเมื่อคุณเสียบอุปกรณ์ประเภท USB Drive, CD ,DVD ,Removable storage
      • Tablet PC Input Service เป็นตัวทำให้ใช้อุปกรณ์พวก Tablet PC , Pen
      • Themes ทำให้ Windows ๗ ใช้ฟีเจอร์ Aero Glass , Theme ได้
      • TCP/IP NetBIOS Helper ให้การสนับสนุนสำหรับ NetBIOS over TCP / IP (NetBT) เป็นการบริการ NetBIOS สำหรับผู้ใช้ในเครือข่าย ช่วยให้ผู้ใช้ไฟล์ร่วมกัน และการเข้าสู่ระบบเครือข่าย
      • Windows Search ข่วยการค้นหาไฟล์ อีเมล และเนื้อหาอื่นๆ
      • Remote Registry ช่วยให้ผู้ใช้ Remote จากที่คอมฯ เครื่องอื่นๆ เข้ามาแก้ไขการตั้งค่ารีจิสทรีในคอมฯ ได้
      • Windows Time ควบคุมดูแล การปรับวันที่และเวลา สำหรับเครื่อง Clients และ Services ในระบบเครือข่าย ทั้งหมด
      • Windows updates ช่วยตรวจสอบให้ดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมปรับปรุงสำหรับ Windows และโปรแกรมอื่นๆ
      • Windows firewall ช่วยปกป้องคอมฯ ของคุณโดยป้องกันผู้ใช้ไม่ได้รับอนุญาตจากการเข้าถึง เครื่องของคุณผ่านอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่าย
      • Windows Image Acquisition เป็นตัวช่วยจัดการการติอต่อระหว่าง Scanner และ กล้องดิจิตอล

      จากการปิดเซอร์วิสแบบปกติตามที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีวิธีพิเศษที่จะสั่งให้ Services หยุดทำงานได้อีกโดยผ่านทาง Command Line พิมพ์ cmd ลงในช่อง Search ของ Start Menu แล้วกดคีย์ Ctrl + Shift + Enter เพื่อเปิดหน้าต่าง Command Line ด้วยสิทธิ Administrator พิมพ์คำสั่งดังนี้

      • คำสั่งยกเลิก Services

Net stop ชื่อของ Services
( ตัวอย่าง Net stop windows update)
    
      • คำสั่งสตาร์ท Service

Net start ชื่อของ Services ( ตัวอย่าง Net start windows update)

      ข้อควรระวัง Services บางตัวมีความสำคัญมาก ซึ่งจะมีผลต่อระบบการทำงานของวินโดวส์ ด้วยเหตุนี้จึงขอให้อ้างอิงตามข้างบนที่ผมทำไว้เป็นหลักว่า Servicesใดที่สามารถปิดการทำงานได้ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะมีผลกระทบต่อเครื่องคุณก็ให้ปล่อยให้มันทำงานต่อไป


จัดการการทำงานของ Process

      จากเรื่อง Services แล้ว ถ้าไม่กล่าวถึง Processes ก็ไม่ได้เพราะ สองตัวนี้เป็นของคู่กันทำงาน เหมื่อนกัน การทำงานกับวินโดวส์นั้น คุณสามารถที่จะเปลื่ยนแปลงระบบการทำงานของ Process ต่างๆ ได้ตามสถานะการที่คุณกำลังทำงานอยู่ ตัวอย่างเช่น ในขณะที่คุณกำลังทำงานเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ดีวีดีด้วยโปรแกรมต่างๆ และขณะเดียวกันก็ต้องการที่จะเล่นอินเตอร์เน็ตด้วย แต่ปรากฎว่า Internet Browser ที่เคยทำงานได้เร็วกลับช้าเป็นเต่า สาเหตุที่เป็นเช่น นี้ก็เพราะว่าระบบของคุณจำเป็นต้องใช้เวลาในการประมวลผลส่วนใหญ่ไปกับ โปรแกรมแรก ในกรณีนี้คุณสามารถเปลื่ยนแปลงระบบทำงานดังกล่าวได้ ๒ วิธี ได้แก่

Set Priority การจัดลำดับความสำคัญของงาน
      ๑. ให้กดคีย์ Ctrl+Shift+Esc หรือคลิกขวาที่ว่างๆบน Taskbar เลือกคำสั่ง Start Task Manager
      ๒. หน้าต่าง Windows Task Manager จะเปิดขึ้นมา ให้ไปที่แท็บ Processes ให้คลิกขวาที่ Process ที่คุณต้องการจะเร่งความเร็วแล้วเลือกคำสั่ง Set Priority ตามระดับความเร็วที่คุณต้องการ ซึ่งมีตั้งแต่สูงสุดคือ Realtime ไปถึงต่ำสุดคือ Low ในที่นี่แนะนำให้คุณกำหนดเป็น High สำหรับโปรแกรมที่คุณต้องการให้ทำงานเร็วขึ้น
           • Realtime
           • High
           • Above Normal
           • Normal
           • Below Normal
           • Low
      ๓. เมื่อคลิกเลือกแล้วจะมีหน้าต่างถามยืนยัน ให้คลิก Change priority ระบบจะรันโปรแกรมในความสำคัญที่คุณเลือก



Set Affinity… การให้ทำงานแบบหลาย Core ในกรณี CPU มีหลาย Core

      ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า CPU ไม่ว่าจะค่าย Intel หรึอ AMD ล้วนแต่ผลิตมาให้มี Core หรือ แกน หรือที่เราๆ เรียกกันว่า CPU หลายหัว ซึ่งมีประโยชน์ต่อการทำงานได้เร็วขึ้น เพราะช่วยกันประมวลผล

      ในการปรับแต่งให้ CPU ช่วยกันประมวลผลหลาย Core วิธีเรียกคำสั่งก็เหมื่อนกันการตั้งการ Set Priority เพียงแค่คลิกเลือกคำสั่ง Set Affinity จะมีหน้าต่าง Process Affinity เปิดขึ้นมาคุณก็คลิกเลือกใส่เครื่องหมายถูก ตามจำนวน Core ที่คุณต้องการ แล้วคลิกปุ่ม OK



ปรับแต่ง Visual Effect

      ทุกคนคงไม่ปฎิเสธว่า Windows ๗ นั้นถูกออกแบบรูปโฉมออกเน้นที่ความ สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นเมนูและทาสก์บาร์ที่เต็มไปด้วยสีสัน การลบเหลี่ยมมุมของหน้าต่างหรือแม้แต่ฟอนต์ตัวอักษรบนหน้าจอ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งสวยงามนั้นก็ต้องแลกกับประสิทธิภาพบางส่วนของเครื่อง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เห็นความสำคัญของประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าความสวยงาม ก็ขอแนะนำให้ปิดการทำงานของฟังก์ชั่นเสริมสวยต่างๆ ให้เหมาะสมกับเครื่องของคุณ

      ๑. พิมพ์ systempropertiesadvanced ลงในช่อง Search ของ Start Menu แล้วกดคีย์ Enter
      ๒. หน้าต่าง System Properties จะเปิดขึ้นมา โดยแสดงผลที่แท็บ Advanced ให้คลิกปุ่ม Settings ภายใต้หัวข้อ Performance
      ๓. ที่หน้าต่าง Performance Options เราเลือกปรับแต่ง Visual Effect ได้ตามต้องการ โดยมีออปชันให้เลือก ๔ ตัวเลือก คือ…
          • Let Windows choose what’s best for my computer เป็นค่าดีฟอลต์ของ Windows ๗ โดยระบบจะวิเคราะห์ฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานอยู่ แล้วปรับ Visual Effect ที่เหมาะสมให้เอง เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งด้านการแสดงผลและประสิทธิภาพการทำงาน
          • Adjust for best appearance เป็นการปรับแต่งที่เน้นหนักไปในด้านการแสดงผลที่สวยงาม โดยเปิดคุณสมบัติ Visual Effect ทั้งหมด
          • Adjust for best performance เป็นการปรับแต่งที่เน้นประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดของคอมพิวเตอร์ โดยยกเลิก Visual Effect ทั้งหมด การแสดงผลจะดูเรียบๆ ไม่สวย แต่คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้น
          • Custom ตัวเลือกนี้เปิดโอกาสให้คุณๆปรับแต่งการแสดงผลของ Visual Effect ในสไตล์ของคุณเอง คุณเลือกได้อย่างละเอียดว่า จะเปิดหรือปิดคุณสมบัติด้านการแสดงผลอะไรบ้าง



      จากประสบการณ์การใช้งาน Windows ๗ ผมแนะนำว่า เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดี ขณะที่การแสดงผลยังดูสวยงามพอเหมาะ ให้คุณเลือกรายการ Custom แล้วคลิกยกเลิกคุณสมบัติด้าน Visual Effects ดังต่อไปนี้…

          • Animate windows when minimizing and maximizing
          • Animations in the taskbar and Start Menu
          • Enable transparent glass
          • Fade or slide menus into view
          • Fade or slide ToolTips into view
          • Fade out menu items after clicking
          • Show shadows under windows
          • Slide open combo boxe

      รับรองว่า คอมพิวเตอร์ของคุณจะยังแสดงผลอย่างสวยงามเหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็ได้ความลื่นไหลของระบบเพิ่มขึ้นมาด้วย

ลบไฟล์ DLLs ออกจากหน่วยความจำ

      ปกติ Windows จะเก็บไฟล์ DLLs ของโปรแกรมที่ถูกใช้ไว้ในหน่วยความจำเสมอ ซึ่งเป็นภาระสำหรับหน่วยความจำ (RAM) และเป็นตัวฉุดการทำงานของเครื่องให้มีประสิทธิภาพต่ำลง ซึ่งปัญหานี้คุณสามารถแก้ได้โดย

      ๑. เปิด Registry Editor ขึ้นมา แล้วไปตามที่คีย์ย่อยด้านซ้ายมือของหน้าต่าง ดังนี้ HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftWindowsCurrentVersionExplorer
      ๒. คลิกขวาที่ คีย์ Explorer เลือก New > Key ให้ตั้งชื่อเป็น AlwaysUnloadDLL
      ๓. แล้วดูที่หน้าต่างขวามือ ให้ดับเบิลคลิกที่คีย์ Default
      ๔. ที่หน้าต่าง Edit String ให้เปลี่ยนตัวเลขที่ Value data: จาก ๐ ให้เป็น ๑
      ๕. กดปุ่ม OK ปิด Registry แล้วรีสตาร์ทหนึ่งครั้งเพื่อให้ค่าที่ตั้งมีผล



ที่มา : http://notebookspec.com 

วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

GSM codes to note


GSM codes to note


GSM LogoJust for a note… some interesting hard-to-find (to-remember) GSM commands:

*35*0000*16# – Incoming SMS off (Block incoming SMS messages)
#35*0000*16# – Incoming SMS ON
Here 0000 is your Network barring password35 is GSM code for Barring Incoming Calls16 is service code for SMS.
To bar other routes use these codes instead of 35:
  • 35 – Incoming
  • 351 – Incoming If Roaming
  • 33 – Outgoing
  • 331 – Outgoing International
  • 332 – Outgoing International except Home (Effective while roaming)
You can combine barring by route with the call types of your choice. E.g. the following 4 combinations may be activated in 4 consecutive steps:
*331*0000*11# (bar outgoing international voice calls)
#331*0000*16# (while allowing outgoing international SMS)
*351*0000*16# (bar incoming SMS only in roaming)
#351*0000*11# (while allowing incoming voice calls in roaming)
BTW, Network Password is used for all types of bars (incoming and outgoing calls, SMS, faxes and so on – both in home network and while roaming) and should be changed from the default 0000 in case you intend to lend your phone or SIM card to somebody. To change Network Barring code enter:
**03*330*old_password*new_password*new_password#
for example:
**03*330*0000*1234*1234#
Other quirky codes:
*61*number# – Divert if “No Answer”
To set the time-out for diverting on “no reply” condition (no pick-up) use this format:
*61*number**seconds#
“seconds” should be between 5 and 30 and will be rounded to the nearest 5 seconds.
This command also sets the default timeout for subsequent commands of*61*number#
##002# – Disable All Call Forwarding
*#43# – Check whether Call Waiting is On or Off
Here are common patterns for GSM codes:
*[service]#Activate [service]
**[service]#Register and activate [service]
*#[service]#Check status [service]
#[service]#Unregister [service]
##[service]#Unregister and deactivate [service]
The sequences mentioned are used in the beginning of the code, like:
*#[service]# – Check status of [service] ([service] is a numeric code of the command)
Note that all the codes (“GSM commands”) end with “#
GSM call types:
(used as an optional parameter like in *#43*10#, which is a refined version of *#43#)
*10 - All cellphone services
*11 - Speech (Voice)
*12 - Data
*13 - Fax
*16 - Short message service (SMS)
*18 - All data services without SMS
*19 - All cellphone services without SMS
*25 - All asynchronous data services

วิธีเข้า Line : Japan Korea USA Taiwan Thailand สำหรับ Line 3.5.0 วิธีเข้า Line : Japan Korea USA Taiwan Thailand สำหรับ Line 3.5.0 [ไม่เจล]

หลังจาก Line อัพเดทเวอร์ชั่นตั้งแต่ 3.3.0 วิธีการเข้าสโตร์ของประเทศต่างๆก็ถูกเปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน โดยวิธีการที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นวิธีการที่ใช้ได้ตั้งแต่เวอร์ชั่น 3.3.0 ถึงเวอร์ชั่น 3.4.0 เลย 
รหัสประเทศต่างๆ
  • JP – Japan
  • KR – Korea
  • US – USA
  • TW – Taiwan
  • TH – Thailand

คำแนะนำก่อนลงมือ

  • วิธีการเข้า Japan Store ไม่จำเป็นต้องเจลเบรก
  • เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ให้ปิด Line ใน Multitasking ด้วยครับ
  • ใช้โปรแกรม iFunbox หรือ iTools ก็ได้ครับ
  • วิธีการนี้ทำให้ chat history หายนะครับ
  • LINE ต้อง register email แล้ว
  • LINE ต้องลงทะเบียนเบอร์มือถือแล้ว
  • LINE ต้องลิงก์กับ facebook แล้ว

ดาวน์โหลด

  • iFunbox สำหรับ Windows และ Mac –> Download
  • iTools สำหรับ Windows และ Mac
  • TextWrangler เป็น text editor ใน OS X (มีหรือไม่ก็ได้)

วิธีการทำ

  1. ล็อคอินไลน์แบบ Verify number ครับ
  2. ตั้งค่า account ให้เชื่อมต่อกับ Facebook โดยเข้าไปที่ Line/more/setting/accounts/Facebook –> Link
  3. ให้ใช้ iFunbox หรือ iTools ไปที่แอป Line แล้วไปต่อที่ Line/library/preference
  4. เปิดไฟล์ jp.naver.line.plist โดยการดับเบิ้ลคลิก
  5. ในไฟล์ jp.naver.line.plist ให้ลบบรรทัดCode:
    <key>tel</key>
    <string>+66 8X XXXX XXXX</string>
  6. จากนั้นหาบรรทัดนี้ครับ
    Code:
    <key>Region</key>
    <string>TH</string>
    ตรงที่เป็น TH ให้เปลี่ยนเป็นประเทศที่ต้องการ เช่น ญี่ปุ่นคือ JP ใต้หวันคือ TW ครับ
    แก้ไขเสร็จให้กด Save ด้วยครับ
  7. จากนั้นลากไฟล์  jp.naver.line.plist จาก itools ไปไว้ที่ desktop พร้อมตั้งชื่อให้เป็นold. jp.naver.line.plist
  8. จากนั้นลบไลน์ออกจากเครื่อง แล้วให้ลง Line ใหม่ โดยคราวนี้ให้ login โดยใช้อีเมล์ครับ โดยไม่ต้อง verify เบอร์ครับ (หากมีการเชื่อมต่อกับ Facebook เอาไว้แล้ว จะไม่ถูกบังคับให้ verify เบอร์ครับ)
  9. ให้ใช้ iTools ไปที่แอป Line แล้วไปต่อที่ Line/library/preference
  10. เปิดไฟล์ jp.naver.line.plist ขึ้นมา จากนั้นจำค่าตัวเลขสีน้ำเงินเอาไว้ก๊อบใส่ notepad ก็ได้ครับ พร้อมเปลี่ยนชื่อไฟล์ปัจจุบันให้เป็น  new.jp.naver.line.plist
    <key>lastOpRevision</key>
    <integer>3527</integer>
    <key>nextRequestSequence</key>
    <integer>638976</integer>
  11. ลากไฟล์ old. jp.naver.line.plist จาก desktop มาลงที่  Line/library/preference  แล้วเปลี่ยนชื่อให้เป็นjp.naver.line.plist
  12. ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ jp.naver.line.plist แล้วก๊อบค่าตัวเลขสีน้ำเงินจากข้อ 10 มาแทนที่
  13. เปิด Line แล้วโหลดสติกเกอร์ของต่างประเทศได้เลยครับ
วิธีการจาก iPhone Junior Team
ขอบคุณ iPhoneThNews

ข้อห้าม

  • ห้ามกดเข้ากลุ่มเด็ดขาด
  • ห้ามเข้า setting/account เพราะจะถูกเด้งเข้า Th Store ทันที

รวม CODE ดาว (*) ระบบ DTAC AIS [ DTAC ]

รวม CODE ดาว (*) ระบบ DTAC AIS

[ DTAC ]

สำหรับ Dtac รายเดือน
USSD
*102*1*เบอร์# เช็คเป็นเบอร์ dtac หรือไม่
*121# เช็คยอดค่าโทร
*121*1# เช็คนาทีที่โทร สำหรับ Feel Free ต่อวัน
*121*2# เช็คนาทีที่โทร สำหรับ Feel Free ต่อเดือน
*121*3# เช็คค่าโทรที่ตัดบิลแล้ว เหมาะสำหรับแจ้งชำระผ่าน 7-11
*124# สมัครใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ
*140# สมัคร Goood Bonus
*140*1# แสดงข้อความเพื่อรับสิทธิพิเศษในโครงการ Goood Bonus
*141*เบอร์แฮปปี้*จำนวนเงิน# บริการเติมเงินให้ Happy (คิดค่าธรรมเนียมครั้งละ 2 บาท ไม่รวมภาษี)
*149*เบอร์ปลายทาง# บริการ Call Me Back
*772# ตั้งค่ามือถือสำหรับ GPRS, EDGE
IVR
*119 Ring for U
*1802 Voice Mail Box (ค่าโทรตามโปรที่ใช้)
*1812 บริการ Bill Manager
*1888 ฟัง/เปลี่ยนแพ็คเกจ ยกเลิกบริการเสริม เช็คยอดค่าโทร จ่ายค่าโทรผ่านมือถือ
*1877 ตรวจสอบสิทธิโทรฟรีในวันเกิด
*7102 สมัครบริการ Dtac No. Alert
*767 > รหัสพื้นที่ บริการแจ้งเวลาละหมาด
1678 Dtac Call Centre
สำหรับ Happy

บริการทางลัด
*100*sn+รหัส# เติมเงิน
*101# เช็คยอดเงินคงเหลือ(อังกฤษ)
*101*9# เช็คยอดเงินคงเหลือ(ไทย)
*101*1# เช็คยอดโบนัสคงเหลือ (อังกฤษ)
*101*1*9# เช็คยอดโบนัสคงเหลือ (ไทย)
*101*2# เช็คยอดsms คงเหลือ
*101*3# เช็คยอดmms คงเหลือ
*101*4# เช็คยอดgprs คงเหลือ
*102*1*เบอร์# เช็คเป็นเบอร์ dtac หรือไม่
*102# เช็คการลงทะเบียน dtac sim
*103# เช็คโปรโมชั่น (ไทย)
*103*9# เช็คโปรโมชั่น (อังกฤษ)
*104# เช็ค gprs ตามโปร
*105# เช็ค gprs
*106# เช็คโบนัส vasup คงเหลือ
*107# sf movie sim
*108# เช็คยอดใช้งานระหว่างเดือน (ไทย)
*108*9# เช็คยอดใช้งานระหว่างเดือน (อังกฤษ)
*110# ใจดีให้ยืมเงิน 30฿ (ค่าบริการ 2 บาท)
*111*1*วัน# ใจดีแลกวัน
*111*2*วัน# ใจดีแลกเงิน
*112*เบอร์*จำนวนเงิน# โอนเงิน (ค่าบริการ 2 บาท)
*113*จำนวนวัน30/90/180# ใจดีแจกวัน (ค่าบริการ 3/9/12 บาท)

บริการตอบรับอัตโนมัติ
*1000 เติมเงิน
*1001 เช็คยอด
*1002 ลงทะเบียนซิม
*1003 เลือกโปรโมชั่น
*1004 โปรบริการเสริม
*1006 เช็คยอด vasup
*1008 Happy Go Inter
*1010 ใจดีให้ยืม (ค่าบริการ 2 บาท)
*1013 ใจดีแจกวัน
*1020 Happy บัญชีสะสมสุข
*1021 ใจดีแปลให้ (ค่าใช้จ่ายตามโปรที่ใช้)
*1025 Happy RED card
*119 เสียงเพลงรอสาย Ring For U (คนจ่ายไม่ได้ฟัง คนฟังไม่ได้จ่าย 37 บาท/เดือน)
*799 Happy เพลงฮิตจี๊ดจ๊าด
*1808 จส.100
*77 แจ๋ว (บริการแจ้งหมายเลขที่ไม่ได้รับ)
*7102 ใจดีแจ้งเครือข่าย (บริการแจ้งเครือข่ายขณะโทรออก)
*1802 Happy Voice Mail Box (ค่าโทรตามโปรที่ใช้)
1678 Happy Call Center (ครั้งละ3 บาท)

[ AIS ]

GSM Advance

*911# = เช็คยอดเงินส่วนเกินจากโปรโมชัน,VASและเวลาใช้งานGPRS (ฟรี)
*96# = เช็คยอดค้างชำระ (ฟรี)
*678# = ตรวจสอบโปรโมชันปัจจุบัน (ฟรี)
*545 = ฟังสิทธิพิเศษ (ฟรี)
*545# = เช็คเบอร์โทรของตัวเอง (ฟรี)
* 43# = เปิดรับสายเรียกซ้อน (ฟรี)
*141 = สมัครบริการMiss Call Alert (ฟรี)
*99 = ฟังVoice Mail (ฟรี)
*292*เบอร์1-2-Call*จำนวนเงิน# = เติมเงินให้เบอร์1-2-Call (ครั้งละ 2.14 บาท รวมVATแล้ว/ จำนวนเงิน = 20,50,100,200,300,400,500)
*292# = เช็ควงเงินคงเหลือที่สามารถเติมให้เบอร์1-2-Call (ฟรี)
*515 = สมัครบริการPrivate Number (ฟรี)
*189 = สมัครบริการCall Screening (นาทีละ 3.21 บาท รวมVATแล้ว)
*180 = รับการตั้งค่าGPRS/EDGE (ฟรี)
*900 หรือ *900# = รับWAP Linkเพื่อโหลดโปรแกรมAIS mobile Internet Menu (ฟรี)
*789 = Calling Melody (ครั้งละ 5.35 บาท รวมVATแล้ว)
*855 = M2G:ส่งเพลงให้เพื่อน (นาทีละ 3.21 บาท รวมVATแล้ว)
*555 = mPay (ฟรี)

1-2-Call
*120 หรือ *120*รหัสบัตรเติมเงิน# = เติมเงินให้หมายเลขตัวเอง (ฟรี)
*130 หรือ *130*เบอร์1-2-Call*รหัสบัตรเติมเงิน# = เติมเงินให้หมายเลขอื่นในระบบ1-2-Call (ฟรี)
*121 หรือ *121# = เช็คยอดเงินและจำนวนวันคงเหลือ (ฟรี)
*121*1# = เช็คยอดเงินและวันหมดอายุของโบนัสค่าโทร (ฟรี)
*139# = เช็คยอดคงเหลือแพ็คเกจSMS,MMSและGPRS (ฟรี)
*777# = เช็คโปรโมชันที่ใช้งานอยู่ (ฟรี)
*545# = เช็คเบอร์โทรของตัวเอง (ฟรี)
*140 = บริการโอนเงิน,โอนวันให้หมายเลขอื่นในระบบ1-2-Call (โทรฟรี/ค่าโอนครั้งละ 3 บาท)
*125 หรือ *125*1# = สมัครบริการข้ามแดนอัตโนมัติหรือโรมมิ่ง (ฟรี)
*131*รหัสประเทศหมายเลขโทรศัพท์# = โทรออกเมื่ออยู่ต่างประเทศ
*222หมายเลขปลายทาง = บริการออกให้(หน่อย)นะหรือเก็บเงินปลายทาง - -" (ฟรี)
*43# = เปิดรับสายเรียกซ้อน (ฟรี)
*141 = สมัครบริการMiss Call Alert (ฟรี)
*99 = ฟังVoice Mail (ฟรี)
*515 = สมัครบริการPrivate Number (ฟรี)
*136 = สมัครบริการCall Screening (นาทีละ 3 บาท รวมVATแล้ว)
*180 = รับการตั้งค่าGPRS/EDGE (ฟรี)
*900 หรือ *900# = รับWAP Linkเพื่อโหลดโปรแกรมAIS mobile Internet Menu (ฟรี)
*789 = Calling Melody (ครั้งละ 5 บาท รวมVATแล้ว)
*855 = M2G:ส่งเพลงให้เพื่อน (นาทีละ 3 บาท รวมVATแล้ว)
*555 = mPay (ฟรี)